ยาคุมเมโลเดีย (Melodia) เป็นยาคุมกำเนิดแบบรับประทาน บรรจุแผงละ 21 เม็ด ประกอบด้วยตัวยาโดรสไพริโนน 3 มิลลิกรัม และเอทินิลเอสทราไดออล 0.3 มิลลิกรัม และบางครั้งใช้เพื่อรักษาสิว ในผู้หญิงอายุ 14 ปี ขึ้นไป ปัจจุบัน ยาชนิดนี้สามารถหาซื้อได้ทั่วไป ในราคาแผงละ 285-310 บาท
ยาเม็ดคุมกำเนิดประกอบด้วยฮอร์โมน 2 ชนิด
คือ เอสโตรเจน และโปรเจสเตอโรน ออกฤทธิ์ร่วมกันในการคุมกำเนิด โดยผ่าน 3 กลไก คือ ควบคุมระดับฮอร์โมนของร่างกายเพื่อไม่ให้เกิดการตกไข่ เพิ่มความเหนียวข้นให้กับของเหลวบริเวณปากมดลูก เพื่อให้อสุจิเข้าไปปฏิสนธิได้ลำบาก และทำให้ผนังมดลูกบางเพื่อไม่ให้ไข่ที่ปฏิสนธิแล้วสามารถฝังตัวได้
ในปัจจุบันมียาเม็ดคุมกำเนิดหลายหลากยี่ห้อ ซึ่งต่างมีปริมาณฮอร์โมนเอสโตรเจน และโปรเจสเตอโรนแตกต่างกันไป ดังนั้น ก่อนรับประทานจึงควรศึกษาวิธีการรับประทานยาจากฉลากยา และเอกสารกำกับยาให้เข้าใจเป็นอย่างดี ถ้าๆไม่แน่ใจให้พบแพทย์ผู้เชี่ยวชาญก่อน และยาเม็ดคุมกำเนิดโดยทั่วไปจะมี 2 ชนิด คือแบบ 21 เม็ด และแบบ 28 เม็ด
ยาเม็ดคุมกำเนิดชนิด 21 เม็ด
- ให้เริ่มทานเม็ดแรกในวันแรกของการมีประจำเดือนครั้งถัดไป หรือหากเริ่มทานเม็ดแรกในวันอื่นต้องมีการคุมกำเนิดวิธีอื่นร่วมด้วย เช่น ถุงยางอนามัย เป็นเวลา 7 วัน (เพราะการควบคุมระดับฮอร์โมนจำเป็นต้องใช้เวลาประมาณหนึ่งสัปดาห์)
- จากนั้นทานเม็ดต่อๆไปในเวลาเดียวกันของทุกวันจนหมดแผง
- เมื่อทานหมดแผงให้เว้น 7 วัน แล้วค่อยเริ่มแผงใหม่
- โดยช่วง 7 วันที่หยุดทานยานั้นอาจมีเลือดออกคล้ายประจำเดือนได้ (แต่ในช่วง 7 วันที่หยุดยาก็ยังคงฤทธิ์การคุมกำเนิดได้อยู่)
สำหรับยาเม็ดคุมกำเนิดชนิด 28 เม็ด
- ประกอบด้วยเม็ดยาฮอร์โมน 21 เม็ด และเม็ดยาที่ไม่มีฮอร์โมนอีก 7 เม็ด
- รับประทานทุกวัน โดยการรับประทานจะเหมือนกับชนิด 21 เม็ด
- แล้วจะไม่มีช่วงหยุดยา 7 วัน
- ให้เปลี่ยนเป็นการทานเม็ดยาที่ไม่มีฮอร์โมน 7 เม็ดแทน เพื่อช่วยไม่ให้ลืมทานยา
- เมื่อทานครบ 28 เม็ดก็สามารถเริ่มทานแผงใหม่ได้เลย
ยี่ห้อยาเม็ดคุมกำเนิดที่ขายในประเทศไทย แบบ 28 เม็ด และ 21 เม็ด
Melodia
ข้อมูลเบื้องต้น
ราคา: แผง 285-310 บาท
ลักษณะ: ยาเม็ดคุมกำเนิดชนิดรับประทาน 21 เม็ด
เหมาะสำหรับ: คุมกับเนิด
หาซื้อได้ที่: Lazada, Shopee, Watsons, konvy, ร้านขายยาที่มีเภสัชกร
คุณสมบัติ Melodia
เมโลเดีย Melodia เป็นยาคุมกำเนิดชนิดฮอร์โมนรวม แต่ละเม็ดประกอบด้วยฮอร์โมนเพศหญิง 2 ชนิดแตกต่างกันในปริมาณต่ำ ได้แก่ ฮอร์โมนโปรเจสโตเจน คือ ดรอสไพรีโนน (drospirenone) 3.00 mg และ ฮอร์โมนเอสโตเจน คือ เอทธินิลเอสตราไอดอล(ethinylestrsdiol) 0.03 mg
- เมโลเดียเป็นยาคุมกำเนิดชนิดฮอร์โมนต่ำ ซึ่งมีฤทธิ์ในการคุมกำเนิด
- ไม่ไม่ทำให้เกิดอาการบวม อ้วน หรือกินแล้วน้ำหนักเพิ่มจากสาเหตุการคั่่งของน้ำในร่างกาย
- สำหรับคนที่เป็นสิว ทำให้อาการของสิวดีขึ้น เมโลเดีย ยังช่วยลดความมันของผิวแล และเส้นผม
- ลดอาการก่อนมีประจำเดือน เช่นหงุดหงิด หิวบ่อย และปวดท้องเมนส์
ควรควรระวัง:
- สตรีที่ให้นมบุตรไม่ควรรับประทานยาคุมเมโลเดีย เนื่องจากทำให้ปริมาณน้ำนมลดลง
- หากพบว่าตั้งครรภ์ขณะใช้ยาคุมเมโลเดีย ควรหยุดรับประทานยาทันที
ข้อห้ามใช้
- ก่อนเลือกใช้ยาคุมเมโลเดีย ควรปรึกษาคุณหมอหรือเภสัชกรก่อน โดยเฉพาะผู้ป่วยเบาหวาน เนื่องจากยาคุมเมโลเดียอาจส่งผลต่อระดับน้ำตาลในเลือดได้
ผลข้างเคียง ยาคุมเมโลเดีย
- อาจมีอาการคลื่นไส้อาเจียน ปวดหัว เจ็บหน้าอกได้ ซึ่งมักพบได้ในบางคนที่เพิ่งเริ่มทานยา 2 – 3 แผงแรก ให้แก้ปัญหาโดยทานยาหลังอาหารเย็น หรือก่อนนอน
- อาการเจ็บคัดเต้านม พบในระยะแรกของการใช้ยา ซึ่งอาการนี้จะหายเองในระยะต่อมา
- อาการเลือดออกกะปริบกะปรอย อาจพบได้ในระยะแรก หรือในผู้ที่ลืมทานยาบ่อยๆ ดังนั้นควรทานอย่างสม่ำเสมอ
- ผลข้างเคียงอื่นๆ เช่น น้ำหนักตัวเพิ่ม เป็นสิว ผมร่วง อาจเกิดในระยะแรก และส่วนใหญ่จะหายเมื่อใช้ไป 2 – 3 เดือน
- แต่ปัจจุบันยาคุมกำเนิดชนิดใหม่ๆก็มีการออกแบบพัฒนา เพื่อลดปัญหาเหล่านี้แล้ว ทั้งนี้อาจปรึกษาแพทย์ หรือเภสัชกรในการเลือกยาให้เหมาะสมกับความต้องการ
ประสิทธิภาพซื้อออนไลน์ที่ไหน
สามารถหาซื้อได้ที่ : ออนไลน์ Lazada, Shopee, Watsons, konvy, ร้านขายยาที่มีเภสัชกรทั่วไป (โปรดเช็ควัน เดือน ปี ที่ผลิต และหมดอายุ ก่อนซื้อ นั้นคือข้อที่บอกว่า ยาคุมที่เราซื้อมามีประสิทธิภาพไหมนะคะ)
วิธีการใช้
- เก็บที่อุณหภูมิต่ำกว่า 30 องศาเซลเซียสและเก็บให้พ้นมือเด็ก
- รับประทานยา Melodia ต่อเนื่อง ตั้งแต่เม็ดที่ 1 ตามลูกศร วันละ 1 เม็ด
- ควรรับประทานยาในเวลาเดิมของทุกวัน เวลาในการรับประทานยา แนะนำก่อนนอน เพื่อให้ระดับยาในเลือดคงที่ จะได้มีประสิทธิภาพในการคุมกำเนิดได้ดี และลดผลข้างเคียงเรื่องเลือดออกกะปริบกะปรอย
- เมื่อครบ 21 เม็ด อีก 7 วันถัดมาไม่ต้องรับประทานยา ระหว่าง 7 วันนี้ควรจะมีเลือดประจำเดือน
- หลังจากหยุดยาครบ 7 วัน ให้เริ่มรับประทานแผงใหม่ วันเดียวกันของสัปดาห์ทุกเดือน
- การต่อยาคุมแผงต่อไปไม่ต้องสนใจวันที่มีประจำเดือนแล้วค่ะ เมื่อใช้เมโลเดียหมดแผง ให้เว้นว่าง 7 วัน (ประจำเดือนจะมาหลังจากใช้ยาหมด 2 – 3 วัน) ครบ 7 วันแล้ว แม้ประจำเดือนจะยังไม่หมด ก็ให้ต่อยาคุมแผงต่อไปได้เลย
หากลืมรับประทานยาคุมเมโลเดีย
- ถ้าลืมรับประทานยาคุมเมโลเดีย ให้รีบรับทานยาเม็ดใหม่ทดแทนทันที
- กรณีลืมรับประทานยามากกว่า 1 เม็ด ให้รับประทานทดแทนเพียงเม็ดเดียว
- การลืมรับประทานยาคุมกำเนิดเกิน 12 ชั่วโมง จะทำให้ประสิทธิภาพการคุมกำเนิดลดลง หากรับประทานยาเม็ดใหม่หลังจากผ่านไปแล้ว 12 ชั่วโมงและมีเพศสัมพันธ์ ควรใช้ถุงยางอนามัยร่วมด้วย
มีเงื่อนไขในการรับประทาน
- ในกรณที่ไม่เคยรับประทานยาคุมกำเนิดเลย หรือไม่ได้รับประทานยาคุมกำเนิดในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา ควรเริ่มรับประทานยาคุมเมโลเดียในวันแรกที่มีรอบเดือน และถ้ามีเพศสัมพันธ์ใน 7 วันแรกของการใช้ยาคุมเมโลเดีย ควรคุมกำเนิดด้วยวิธีการอื่นร่วมด้วย
- ถ้าเคยใช้ยาคุมกำเนิดประเภทหรือยี่ห้ออื่นมาก่อน ให้รับประทานยาคุมเมโลเดียหลังจากวันสุดท้ายที่รับประทานยาคุมกำเนิดยี่ห้อเดิม ควรเปลี่ยนยี่ห้อยาคุมกำเนิดก่อนเข้าสู่ช่วง 7 วันที่ไม่ต้องใช้ยาคุมกำเนิด
- การใช้ห่วงคุมกำเนิดหรือยาคุมแบบแปะมาก่อน ให้เริ่มรับประทานยาคุมเมโลเดีย ในวันที่อุปกรณ์คุมกำเนิดดังกล่าวถูกนำออกจากร่างกายแล้ว
- กรณีที่ไม่ต้องการมีบุตร สามารถเริ่มรับประทานยาคุมเมโลเดียได้ทันที โดยอาจไม่จำเป็นต้องคุมกำเนิดด้วยวิธีอื่นร่วมด้วยเลย
- ถ้าเพิ่งคลอด หรือแท้ง ควรรับประทานยาคุมเมโลเดียในวันที่ 28 นับจากวันคลอดหรือวันที่แท้ง เนื่องจากหากเริ่มรับประทานยาเร็วกว่านั้น อาจเพิ่มความเสี่ยงเป็นลิ่มเลือดอุดตันในหลอดเลือดดำ และช่วง 7 วันแรกของการรับประทานยา หากต้องการมีเพศสัมพันธ์ ควรคุมกำเนิดด้วยการใช้ถุงยางอนามัยร่วมด้วย
- หากอาเจียนหรือท้องร่วง ในช่วง 4 ชั่วโมงหลังรับประทานยาเม็ดล่าสุด ให้รับประทานยาเม็ดใหม่ทันที เพราะการดูดซึมตัวยาจากยาเม็ดเดิมอาจยังไม่สมบูรณ์ และมีผลต่อประสิทธิภาพในการคุมกำเนิด
รีวิวและความเห็น Melodia
สำหรับยาคุม Melodia ตัวนี้ ยกให้เรื่องการควบคุมน้ำหนักได้ดี ไม่อ้วน บวม แต่เรื่องสิวนั้น ไม่ได้ช่วยสักเท่าไหรนะคะ
เพิ่มเติมก่อนเลือกใช้ยาคุมเมโลเดีย ควรปรึกษาคุณหมอหรือเภสัชกรเสียก่อน โดยเฉพาะผู้ป่วยเบาหวาน เนื่องจากยาคุมเมโลเดียอาจส่งผลต่อระดับน้ำตาลในเลือดได้ นะคะ
ข้อดี
- ช่วยคุมกำเนิด
- ไม่บวมน้ำ ไม่อ้วน เพราะมีฤทธิ์ต้านการบวมน้ำ
- ช่วยปรับฮอร์โมนได้ดี ระดับกลาง
- ควบคุมสิวได้ ในระดับกลาง
- ผิวเกลี้ยง ดูชมพู (ผลขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคลด้วย)
- ลดอาการคัดตึงเต้านม ช่วยบรรเทาอาการก่อนมีประจำเดือน
- ช่วยลดอาการ PMS หรืออาการหงุดหงิด ปวดท้องประจำเดือนได้ดีอีกด้วย
ข้อเสีย
- ราคาจัดว่าแพง
- เม็ดแรกของแพง: ฮอร์โมนจะแปรปรวน จะหงุดหงิด หรือเวียนหัวร่วมด้วย
- ผลข้างเคียงที่พบได้ทั่วไป: (ร่างกายแต่ละคน จะเกิดภาวะผลข้างเคียงไม่เหมือนกัน) มดลูกอักเสบ, ตัวบวมน้ำ, เจ็บหน้าอก, คลื่นไส้, อาเจียน, หงุดหงิด, สับสัน, ซึมเศร้า, ปวดท้องประจำเดือน, น้ำหนักเพิ่มขึ้นหรือลดลงแบบผิดปกติ, ความต้องการทางเพศเพิ่มขึ้นหรือลดลง
- ผลข้างเคียงที่พบได้ไม่บ่อย: ความอยากอาหารเพิ่มขึ้นหรือลดลง, ผื่นขึ้น ฝ้าขึ้น, ความดันโลหิตสูงขึ้น, ตะคริว, ท้องอืด, สายตามีปัญหา แพ้คอนแทคเลนส์