“ หน้าที่ของโทนเนอร์คือ ใช้เช็ดทำความสะอาดสิ่งสกปรกในขั้นตอนสุดท้ายของการล้างหน้า ใช้เพื่อให้แน่ใจว่าผิวหน้าของเรานั้นสะอาดและปราศจากสิ่งสกปรกที่ตกค้าง โทนเนอร์ยังช่วยช่วยปรับสภาพผิวหน้าของเราให้มีความชุ่มชื้น ช่วยให้ผิวหน้าเปิดรับการบำรุงได้ล้ำลึกกว่าเดิมก่อนที่เราจะลงครีมบำรุงต่างๆ ลงไปนั่นเอง ”
ในปัจจุบันนี้ โทนเนอร์ ถือว่าเป็น ไอเทมที่สำคัญสำหรับการดูแลผิวหน้าเลยทีเดียวสำหรับใครที่ต้องการดูแลผิวเพิ่มเติมเป็นพิเศษก็อย่างลืม ลองหาซื้อ โทนเนอร์มาลองใช้กันได้นะคะ
โทนเนอร์ตัวไหนดี?
โทนเนอร์ยี่ห้อไหนดี รีวิวเปรียบเทียบ Toner ที่ดีที่สุด
โทนเนอร์ตัวไหนดี ราคาถูก หาซื้อง่าย
โทนเนอร์ คืออะไร?
โทนเนอร์ คือ ผลิตภัณฑ์ผลิตภัณฑ์สกินแคร์ในรูปแบบเช็ดทำความสะอาดสิ่งสกปรกบนใบหน้า ซึ่งมีคุณสมบัติช่วยปรับสมดุลของผิว ช่วยให้ผิวหน้าเปิดรับการบำรุงได้ล้ำลึกกว่าเดิมมากขึ้น ก่อนที่จะลงครีมบำรุงต่างๆ ลงไป
โทนเนอร์จะช่วยให้ครีมบำรุงทำงานดีขึ้น โดยครีมจะซึมซาบลงสู่ผิวง่ายและลึกมากขึ้น หากใช้ครีมบำรุงหลังโทนเนอร์ หรือบางยี่ห้อ อาจมีการเพิ่มประโยชน์ในแง่อื่นๆ เช่น ความขาวกระจ่างใส และลดเลือนริ้วรอยได้อีกด้วยนะคะ
โทนเนอร์ควรใช้ตอนไหนดีที่สุด?
โดยส่วนใหญ่ เป็นโทนเนอร์ที่มีคุณสมบัติที่สามารถใช้ได้ ทั้งเช้า – เย็น ไม่มีผลทำให้ผิวไวต่อแสง หรือ หลักการง่ายๆ ล้างหน้าเมื่อไร่ก็สามารถเช็ดโทนเนอร์ตามได้ทันทีค่ะ
ใช้โทนเนอร์เพื่ออะไร ?
โทนเนอร์ คือ สิ่งที่จะช่วยทำความสะอาดผิว และเปิดรูขุมขน เพื่อให้การบำรุงทำงานได้ดีขึ้น เพราะรูขุมขนที่ได้รับการทำความสะอาดหมดจด จะช่วยให้ผิวและรูขมขุน เปิดรับการบำรุง สำหรับครีมต่างๆที่เราจะใช้ทาลงบนผิวหน้าในขั้นตอนต่อไป ได้ล้ำลึกกว่าเดิมนั้นเองค่ะ
โทนเนอร์แบ่งออกเป็น 3 ประเภท
1. โทนเนอร์สำหรับทำความสะอาด
โทนเนอร์สำหรับทำความสะอาด คือ จะช่วยกำจัดสิ่งสกปรกที่ตกค้างอยู่บนผิวหน้า เช่นฝุ่นละออง ความมัน ควัน หรือแม้แต่อากาศที่ไม่สะอาด ซึ่งเป็นส่วนเกินบนใบหน้า และเครื่องสำอางที่ยังตกค้างอยู่บนรูขุมขน เพราะต่อให้ใช้ Makeup Remover แล้วก็อาจจะล้างออกไม่สะอาดทั้งหมด ยิ่งถ้ารีบๆก็มี่ได้ช่วยอะไรเลย
การใช้โทนเนอร์จึงเป็นตัวช่วยในการทำความสะอาดได้เป็นอย่างดี ซึ่งส่วนใหญ่โทนเนอร์ประเภทนี้มักจะมีส่วนผสมของแอลกอฮอล์เป็นส่วนประกอบร่วมในเนื้อโทนเอนร์ด้วย
2. โทนเนอร์บำรุงผิว
โทนเนอร์บำรุงผิว คือ จะมีส่วนผสมของวิตามินประเภทต่างๆ เกลือแร่ และสารบำรุงผิว (ทั้งเคมีและสารสกัดจากทำธรรมชาติ) ที่จะช่วยให้ความชุ่มชื้นกับผิวหน้า ทำให้ผิวหน้าจะไม่แห้งเป็นขุย ช่วยให้ผิวหน้าแข็งแรงมากขึ้น และทำให้ผิวหน้ากระจ่างใส ไม่แห้งกร้านหรือหยาบลงกว่าเดิม
3. โทนเนอร์กำจัดสิว
โทนเนอร์กำจัดสิวคือ จะมีการเติมสาร Salicylic Acid หรือ BHA ที่ช่วยรักษาในเรื่องสิว อุดตัน ช่วยลดเลือนริ้วรอยแดง และรอยดำที่เกิดจากปัญหาสิวประเภทต่างๆที่ขึ้นบนใบหน้า อีกทั้งยังช่วยลดความมัน กระชับรูขุมขน ทำให้ใบหน้าที่เคยหมองคล้ำกลับมาขาวสว่างกระจ่างใส ลดโอกาสการเกิดสิวในอนาคตได้อีกด้วย
โทนเนอร์เหมาะกับผิวแบบไหนบ้าง?
1. ผิวแห้ง
แนะนำโทนเนอร์ที่มีคุณสมบัติให้ความชุ่มชื้นกับใบหน้าเป็นหลัก เพราะผิวแห้งจะมีความเสี่ยงเกิดรอยเหี่ยวย่นได้ง่ายกว่าผิวประเภทอื่น ๆ ควรเลือกโทนเนอร์ที่ไม่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์และให้ความชุ่มชื้นกับผิว จะช่วยให้ผิวไม่แห้งกร้าน
เพิ่มเติม: ควรเลือกใช้โทนเนอร์ที่มีคุณสมบัติเพิ่มเติม เช่น การเติมน้ำให้ผิว มอบความชุ่มชื่นให้กับผิว เพิ่มด้วย
2. ผิวมันหรือผิวผสม
แนะนำโทนเนอร์ที่มีคุณสมบัติที่เน้นในเรื่องขจัดสิ่งสกปรกเป็นหลัก ไม่ว่าจะเป็นคราบฝุ่น คราบเครื่องสำอาง เพราะผู้ที่มีผิวมันหรือมีผิวผสมจะมีโอกาสเกิดสิวง่ายกว่าผิวประเภทอื่น
เพิ่มเติม: ควรเลือกใช้โทนเนอร์ ที่ไม่มีส่วนผสมของ น้ำมัน น้ำหอม และ แอลกอฮอล์ จะเป็นดีที่สุด เนื่องจากสารต่างๆ อาจะมีผลทำให้เกิดการระคายเคืองได้ และควรเลือกที่มีคุณสมบัติที่ช่วย ขจัดความมันส่วนเกิด ลดการอุดตันรูขุมขน และ มีสารในการลดแบคทีเรียที่ทำให้เกิดสิว
3. ผิวธรรมดา
แนะนำโทนเนอร์ที่มีคุณสมบัติเน้นการบำรุง ผิวแบบธรรมดาถือว่าโชคดีกว่าทุกผิว เพราะผิวไม่ได้มีปัญหาในเรื่องความมันหรือความแห้ง จึงสามารถใช้โทนเนอร์ได้ทุกสูตร ไม่ว่าจะเป็นโทนเนอร์ที่เน้นในเรื่องของการทำความสะอาดหรือเน้นบำรุงผิวก็สามารถเลือกตามใจชอบได้เลย แต่ถ้าเป็นแอดมิน แอดมินขอแนะนำให้เลือกสูตรการบำรุงที่ชุมชื่นจะดีที่สุดค่ะ
เพิ่มเติม: ควรเลือกใช้โทนเนอร์ที่มีคุณสมบัติเพิ่มเติม เช่น การเติมน้ำให้ผิว มอบความชุ่มชื่นให้กับผิว เพิ่มด้วย
ประโยชน์ของโทนเนอร์ มีอะไรบ้าง?
- มีหน้าที่ช่วยทำความสะอาดสิ่งสกปรก ที่ตกค้างจากการล้างทำความสะอาดใบหน้า
- ช่วยปรับสภาพผิว ปรับค่า PH ให้พร้อมก่อนการทาครีมบำรุงผิว (การปรับค่า Ph ก็เป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้ โทนเนอร์ มามีอิทธิพล เพราะส่วนมาก Cleanser ในตลาด ก็จะมี ค่า Ph ที่เป็นเบส ค่อนข้างสูง (ประมาณ 7 ขั้นไป) ซึ่งอาจจะทำให้ การทาผลิตภัณท์ต่อไป อาจไม่ค่อยดี ผิวจะได้รับสารอาหารดีที่สุดเมื่ออยู่สภาวะ เป็นกลาง 4.5-5.5 (หรือสภาวะ Ph แบบกรดอ่อนเช่น Vit C แบบ AA request ph 3-4 , AHA BHA ก็เช่นเดียวกัน) ก็ใช้โทนเนอร์เช็ด เราเลยไม่ต้องรอให้ผิว ปรับ Ph ตัวเอง ก็เลยจะมีประโยชน์เพื่อให้ครีมซึมเข้าสู่ผิวได้ดีขึ้น
- โทนเนอร์ที่ดีควรมีส่วนผสมของวิตามิน โปรตีนที่จำเป็นและเกลือแร่ ที่มีสารประกอบเพื่อช่วยในการบำรุงผิว ช่วยลดความมัน กระชับรูขุมขนสำหรับคนผิวมัน ช่วยเติมความชุ่มชื้นสำหรับคนผิวแห้ง ซึ่งโทนเนอร์ที่คุณสมบัติที่หลากหลาย และมีความปลอดภัยอ่อนโยนต่อผิวนั้น อาจจะมีราคาที่ค่อนข้างสูงแต่หากแลกกับความคุ้มค่าและผลลัพธ์นั้น ถือว่าคุ้มมากๆเลยคะ
- หากต้องการโทนเนอร์ที่ช่วยลดปัญหาการเกิดสิว ก็อาจจะดู โทนเนอร์ที่มีส่วนผสม ของ Salicylic acid หรือ AHA BHA PHA ที่ช่วยเรื่องการผลัดเซลล์ผิว หรือ ส่วนผสมต่างๆที่ช่วยลดแบคทีเรียที่ทำให้เกิดสิว
การใช้โทนเนอร์ให้ถูกวิธีนั้นต้องใช้อย่างไร?
- หลังทำความสะอาดผิวหน้า ให้ซับหน้าให้แห้ง สำหรับผิวที่มีปัญหาเรื่องเป็นสิวง่าย แนะนำการซับหน้าหลังล้างหน้า ควรใช้กระดาษทิชชู่ซับหน้าให้แห้ง แทนการใช้ ผ้าขนหนู เนื่องจากผ้าขนหนู มีเซลล์เสื่อมสภาพที่เกาะตามผ้าอยู่มากมาย เมื่อเราทำความสะอาดหน้า แล้วนำผ้าขนหนูไปซับหน้า ก็เหมือนกับว่า นำสิ่งสกปรกกลับลงไปที่ผิวหน้าอีกครั้ง ก็อาจจะทำให้มีความเสี่ยงต่อการอุดตันและเป็นสิวได้
- หยดโทนเนอร์ลงบนสำลี แนะนำ เป็นสำลีที่สำหรับใช้ร่วมกับเครื่องสำอางจะดีกว่าหยดให้สำลี ชุ่มพอประมาน ไม่เยอะจนเกินไป และ ไม่แห้งจนเช็ดแล้วหน้าเรามีขลุยสำลีติดออกมา ถือว่าโอเคร วิธีการเช็ด สามารถเช็ดตามแนวโพรงขน เช็ดลง หรือ ส่วนใหญ่นิยมเช็ดย้อนรูขุมขนเพื่อเปิดรูขุมขน ทำความสะอาดรูขุมขนได้อย่างล้ำลึก
- เช็ดสำลี ที่ผิวหน้าอย่างเบามือ ไม่ต้องออกแรงเยอะจนเกินไป ช่วยป้องกันไม่ให้เกิดริ้วรอยบนใบหน้า
- การเช็ดทำความสะอาด อาจจะใช้สำลีเช็ดทีละครึ่งหน้า เพื่อให้สามารถทำความสะอาดใบหน้าได้อย่างทั่วถึง เมื่อเช็ดเสร็จแล้ว ให้กลับสำลีอีกฝั่งเพื่อเช็ดทำความสะอาดส่วนที่เหลือ
- การใช้ โทนเนอร์ สามารถที่จะใช้ได้หลายแบบ ตามวัตถุประสงค์ เช่น
- ต้องการ ลดความมัน ทำความสะอาดลดการเกิดสิว ก็อาจจะใช้ร่วมกับสำหรับ แล้วเช็ดที่ผิวหน้า
- ต้องการบำรุงผิวเพิ่มความชุ่มชื่น ก็สามารถที่จะนำ โทนเนอร์ มาหยดใส่มือแล้วนำมาตบหน้าเบาๆ แทนน้ำตบได้
- หลายคนจะเคยได้ยินว่า นำโทนเนอร์ ใส่สำลี แล้วนำมาทำในรูปแบบ แผ่นมาส์ก เพื่อบำรุงผิว ก็สามารถนำมาใช้แบบนี้ได้เช่นเดียวกัน อยู่ที่ใครมีเวลามากน้อยเท่านั้นเองค่ะ สะดวกแบบไหนก็ทำแบบนั้นดีที่สุดค่ะ
วิธีใช้โทนเนอร์เช็คหน้าไม่ให้สิวขึ้น และหน้าไม่เหี่ยว
- เทผลิตภัณฑ์ล้างเครื่องสำอางหรือโทนเนอร์ ลงบนแผ่นสำลี
- เช็ดใบหน้าด้วยสำลีไปตามทิศทางของลูกศรตามรูปข้างบน โดยไล่มาตั้งแต่หน้าผาก เช็ดออกมาทางด้านข้างของศรีษะทั้ง 2 ข้าง
- จากนั้นก็เช็ดลงมาที่จมูกตั้งแต่บริเวณหัวตา มาที่ดั้ง ปลายขมูก และบริเวณด้านบนของปาก
- จากนั้นเช็ดบริเวณแก้ม โหนกแก้ม โดยลูบออกทางด้านข้างตามลูกศร ไล่ให้ทั่วบริเวณ โดยถูเป็นทิศทางเดียวกันตลอด
- สุดท้ายให้ถูบริเวณคางเป็นแนวดิ่งลง
เพิ่มเติม: การเช็ดหน้าตามแนวขนที่ดีนั้น ควรเช็ดอย่างเบามือแระประณีสุด อย่าถูหน้าแรงเพราะจะทำให้วิธีที่เรากำลังทำอยู่นี้ศูนย์เปล่า อาจเกิดการระคายเคืองหรือริ้วรอยตามมาได้ และที่สำคัญให้ถูหน้าตามแนวลูกศรในรูป ห้ามถูสวนทางขึ้นมาเด็ดขาด หากทำแบบนี้อย่างสม่ำเสมอ สิวอุดตันจะลดน้อยลง ดูเรียบเนียนขึ้น ถ้าไม่เชื่อลองทำตามที่แอดมินบอกได้นะคะ
วิธีการใช้โทนเนอร์สำหรับมือใหม่
- การใช้โทนเนอร์ ต้องเช็ดหลังจากหลังหน้าเสร็จใหม่ ๆ ตอน เช้า-เย็น ก่อนบำรุงผิว
- เลือกใช้สำลีแบบแผ่น เพราะจะทำความสะอาดใบหน้าได้ง่าย และเข้าถึงผิวได้มากกว่า แต่สำหรับสาวผิวแพ้ง่าย ก็ต้องเลือกสำลีที่อ่อนโยนกับผิวหรือใช้มือในการกดโทนเนอร์ให้เข้ากับผิว
- หยดโทนเนอร์ในปริมาณเท่าเหรียญสิบบาท จับสำลีให้ถนัดมือแล้วค่อย ๆ เช็ดผิวหน้าอย่างเบามือ จะเช็ดหน้าที่ละครึ่งหน้าก็ได้ โดยเน้นในส่วนที่ทำสะอาดหน้าไม่ทั่วถึงอย่าง บริเวณรอบดวงตา จมูก
- หลังจากที่ใช้โทนเนอร์แล้ว ไม่ต้องล้างออกนะคะ สามารถทาครีมบำรุงผิวต่อได้เลยตามที่ต้องการนะคะ
ข้อดี
- ช่วยทำความสะอาดผิว กำจัดสิ่งสกปรกตกค้างบนใบหน้า
- ช่วยปรับสภาพผิวก่อนทาครีม ทำให้ครีม ซึมเข้าบำรุงได้ดียิ่งขึ้น
- ช่วยให้ผิวกระจ่างใส ลดสาเหตุของผิวหมองคล้ำ
- ช่วยให้รูขุมขนกระชับ ผิวหน้าเรียบเนียน
- ช่วยให้ผิวหน้าแข็งแรง ชุ่มชื้น ไม่แห้งเป็นขุย
- ลดริ้วรอย ให้ใบหน้าตึงกระชับ
- ปรับสภาพผิวให้เรียบเนียน แต่งหน้าติดทน
ข้อเสีย
- ราคาแพง
- หมดเร็ว
- เห็นผลช้า
Toner โทนเนอร์ตัวไหนดี ราคาถูก ช่วยเรื่องผิว
1. ขจัดฝุ่นผงและสิ่งตกค้างบนใบหน้า
โทนเนอร์ Neutrogena
ข้อมูลผลิตภัณฑ์
- ยี่ห้อ: Neutrogena
- ปริมาณ: Neutrogena Alcohol-Free Toner 150 Ml.
- ราคา: 186 บาท
- ลักษณะ: โทนเนอร์สูตรปราศจากแอลกอฮอล์ เหมาะกับผิวแพ้ง่าย
- จุดเด่น: ขจัดฝุ่นผงและสิ่งตกค้างบนใบหน้าและปรับสมดุลผิว
- หาซื้อได้: waston, shopee, lazada
ส่วนประกอบ
- Water, PEG-4, Butylene Glycol, Polysorbate 20, Ceteth-24, Choleth-24, Panthenol, Glycereth-26, Sodium PCA, Benzal-konium Chloride, Disodium EDTA, Sodium Chloride, Methylparaben, Propylparaben, Fragrance.
2. ทำความสะอาดรูขุมขน ลดสิวอุดตัน
โทนเนอร์ Smooth E
ข้อมูลผลิตภัณฑ์
- ยี่ห้อ: Smooth E
- ปริมาณ: Smooth E Acne Clear Whitening Toner 150 Ml.
- ราคา: 300 บาท
- ลักษณะ: โทนเนอร์สูตรปราศจากแอลกอฮอล์ เหมาะกับผิวแพ้ง่าย
- จุดเด่น: ช่วยบำรุงผิว ให้ผิวขาวกระจ่างใส ลดความมันบนใบหน้า
- หาซื้อได้: waston, shopee, Lazada
ส่วนประกอบ
- น้ำ , แอลกฮออล์ , วิตามินอี , แอคนิคธรรมชาติ ปราศจากน้ำมัน ไม่ใส่สารพาราเบน
3. โทนเนอร์ Organic สารสกัดจากธรรมชาติ
โทนเนอร์ Plantnery
ข้อมูลผลิตภัณฑ์
- ยี่ห้อ: Plantnery
- ปริมาณ: Plantnery Green Tea First Toner 250 ml
- ราคา: 129 บาท
- ลักษณะ: โทนเนอร์ช่วยล้างสารเคมีตกค้างและเติมความชุ่มชื่น ลดสิวผด
- จุดเด่น: มอบความชุ่มชื่นและสดชื่นด้วยสารสกัดของใบชาเขียวจากธรรมชาติ 100 %
- หาซื้อได้: waston, shopee, Lazada
ส่วนประกอบ
4. ผลัดเซลล์ผิวเก่า เผยเซลล์ผิวใหม่ใสเว่อ
โทนเนอร์ Skin1004
ข้อมูลผลิตภัณฑ์
- ยี่ห้อ: Skin1004
- ปริมาณ: Madagascar Centella Toning Toner 210 ml
- ราคา: 483 บาท
- ลักษณะ: โทนเนอร์ทำความสะอาดรูขุมขนผลัดเซลล์ผิวที่เสื่อมสภาพ อย่างอ่อนโยน
- จุดเด่น: เหมาะสำหรับผิวบอบบ้าง แพ้ง่าย
- หาซื้อได้: waston, shopee, Lazada
ส่วนประกอบ
- Centella Extract from Madagascar(84), Purified Water, Dipropylene Glycol, 1,2-Hexanediol, Niacinamide, Glucono delta-Lactone, Tromethamine, Carbomer, Sodium Citrate, Adenosine, Disodium EDTA, Dipotassium Glycyrrhizate, Betaine,Hyaluronic Acid, Ethylhexylglycerin