Eye Shadow ยี่ห้อไหนดี ถูกและดีที่สุด

     “การแต่งตาด้วยอายแชโดว์ให้ดูเพอร์เฟคนั้น คือศิลปะชิ้นเอกบนในหน้า และดวงตา เพราะการเกลี่ยผสมเสีบนพื้นผิว เป็นกุญแจสำคัญในการแต่งหน้า แน่นอนว่าไม่ใช่ทุกคนจะเป็นช่างแต่งหน้ามืออาชีพได้ แต่ทุกคนสามารถเริ่มเรียนรู้ได้ และสิ่งที่ขาดไม่ได้เลย นั้นก็คือ Eye Shadow”

ราคาจะแพงหรือไม่แพงนั้น จัดอยู่ที่ความชอบส่วนบุคคล และสาวกของแบรนด์นั้นๆ อันนี้ถือว่า เป็นเรื่องที่ว่ากันไม่ได้นะคะ

Eye Shadow ถือเป็นเครื่องสำอางชิ้นสำคัญ ในการแต่งตาอย่างหนึ่งที่สาวๆ จะขาดไปไม่ได้ใน การ เมคอัพลุคให้ดูสวย เป็นเครื่องสำอางที่ช่วยสร้างสีสันบนเปลือกตาให้ดูโดดเด่นในแบบที่ต้องการ มีให้เลือกใช้กันอยู่หลายแบบตามความต้องการของสาวๆ ทั้งแบบฝุ่นและแบบครีม Eye Shadow ที่ดีควรมีเนื้อละเอียด บางเบา ซึ่งโดยปกติแล้วสีจะถูกเลือกใช้ให้เข้ากับการแต่งตัว หรือให้เข้ากับเสื้อผ้าที่สวมใส่ หรือตามความเหมาะสมของโอกาส โดยถึงแม้ว่าการ Mix and Match สีของ Eye Shadow จะดูง่าย แต่ก็มีการใช้ผิดๆ อยู่มาก วันนี้เรามาดู Eye Shadow ยี่ห้อไหนดี ถูกและดีที่สุด กันค่ะ

1. Eye Shadow: URBAN DECAY – พาเลตต์อายแชโดว์ Naked Wilde West Eyeshadow Palette

คุณสมบัติ Eye Shadow: URBAN DECAY

ดินอายแชโดว์พาเลตต์ใหม่ล่าสุด พาเลตต์เป็นซีรีส์ NAKED ที่เพิ่งวางจำหน่าย โดยรุ่นนี้ มีความโดดเด่นกันตั้งแต่ลวดลายเกล็ดงูบน package อีกทั้งมาในโทนสีน้ำตาล และสีเขียว 12 เฉดสี ดูหรูราน่า พกพาสุดๆ!!

• ทั้งหมดเป็นสูตร Vegan
• เนื้ออายแชโดว์นุ่ม เกลี่ยง่าย เบลนด์เนียน
• เม็ดสีแน่นสีชัดเจน ดูถนอมผิวหน้าสุดๆ
• มีทั้งเนื้อแมทท์ ชิมเมอร์ และเมทัลลิค
• สีไม่ช้ำกับ Naked Palette เก่าๆ ที่เคยมีมา
• สีที่โดดเด่นที่สุดก็ คือ สีเขียวผสมชิมเมอร์ที่อยู่ตรงกลางนั้นเอง

วิธีการใช้

1. ลงอายไพรเมอร์ เพื่อให้อายแชโดว์ติดทนนานทั้งวัน ถ้าไม่ใช้อายไพรเมอร์ น้ำมันธรรมชาติที่ผิวผลิตขึ้นมาจะค่อยๆ ซึมเข้าอายแชโดว์ และทำให้มันเกาะอยู่ตรงรอยพับของเปลือกตาเมื่อเวลาผ่านไปหลายชั่วโมง
2. เริ่มต้มจากใช้สีใน URBAN DECAY การคัดเบ้าก่อน เพื่อเพิ่มความลึกให้ดวงตา จะทำให้ดวงตาดูโตขึ้น โดยใช้แปรงหัวฟูแตะสี Nudie แล้วลงไปตรงกระบอกตา เบลนด์ให้เข้ากัน
3. ตรงบริเวณตรงเปลือกตา ให้แตะสี ที่ต้องการลงไปตรงรอยพับ ถึงประมาณกึ่งกลางเปลือกตา
4. ใช้แปรงกลมหัวใหญ่หน่อย แตะสี Whiskey หรือสีที่ชอบ แตะลงไปบริเวณหางตาเพิ่มความลึกให้ตาดูมีมิติมากขึ้น
5. แล้วใช้แปรงที่เราคัดเบ้าในตอนแรกเกลี่ยสีให้กลมกลืนกัน
6. ใช้แปรงหัวดินสอหรือพูกันที่เราถนัดอยู่แล้ว แตะสี Standoff ลงไปที่บริเวณหัวตา
7. ใช้แปรงหัวเล็กแตะสี ไล่เกลี่ยตรงหัวตาวนลงไป ด้านนอกของเปลือกตาล่าง
8. ใช้แปรงอันเดียวกันแตะสีที่ซอฟต์ลง ด้านนอกของเปลือกตาล่าง เพื่อเกลี่ยสีให้ซอฟต์นั้นเอง
9. เสร็จแล้ว มองกระจกทุกด้าน เช็คความเรียบร้อย เราสามารถเลือกสีที่เราชอบได้ เพราะโดยส่วนใหญ่แล้ว สาวๆจะมีสีประจำตัวอยู่แล้ว ค่ะ

รีวิวและความเห็น Eye Shadow: URBAN DECAY

รีวิวจากแอดมินผู้ที่ชอบแต่งตาเป็นที่สุด คือแอดมินผิวค้อนข้างเข้มนะค่ะ จะบอกว่าสีดีมากค่ะ ผิวแทนก็คือทาขึ้นมาก ที่สำคัญพาเลตต์เลิศมาก มีสีสวย สีชัด ไม่เคยผิดหวังกับแบรนด์นี้ ใช้ได้ทุกโทนสีผิวโดยเฉพาะผิวแทนคือแบบ ปรบมือแน่ๆไปเลย ค่ะ

2. Eye Shadow: TARTE – พาเลตต์อายแชโดว์ Tartelette In Bloom Clay Palette

คุณสมบัติ Eye Shadow: TARTE

ทางแบรนด์เครมเลยว่า Eye Shadow ตัวนี้ ไม่มีสารกันเสียผสม ซึ่งมีความพิเศษ คือเนื้อสัมผัสมีส่วนผสมของโคลนจากลุ่มน้ำแอมะซอน ที่ช่วยให้ Eye Shadow ติดทนนาน ทนต่อความมันบนเปลือกตา ต่อให้เหงื่อออก ก็ตาม และมีแร่ธาตุต่าง ๆ ที่ช่วยบำรุงผิว นอกจากนี้ ยังปราศจากพาราเบน น้ำมันแร่ และสารระคายเคืองอื่น ๆ ตามสไตล์ TARTE จึงเหมาะกับสาว ๆ ที่มีผิวแพ้ง่าย หรือใส่คอนแทคเลนส์ ถ้าแต่งเติมแล้ว ลุคคุณหนูเดินดินมาแน่นอนค่ะ!!

• ส่วนประกอบ: Paraben-free, Sulphate-free, Gluten-free, Mineral, Clean at Sephora
• ปราศจากสารกันเสีย
• โทนสีค่อนข้างสุภาพ และสามารถแต่งให้แซ่บได้ในพาเลตต์เดียวกัน

วิธีการใช้

1. ลงอายไพรเมอร์ เพื่อให้อายแชโดว์ติดทนนานทั้งวัน ถ้าไม่ใช้อายไพรเมอร์ น้ำมันธรรมชาติที่ผิวผลิตขึ้นมาจะค่อยๆ ซึมเข้าอายแชโดว์ และทำให้มันเกาะอยู่ตรงรอยพับของเปลือกตาเมื่อเวลาผ่านไปหลายชั่วโมง
2. อย่าปัดมาสคาร่าก่อนแต่งตา และถ้าไม่ได้แต่งตาสโมกกี้อายแบบพิเศษจริงๆ เราก็ควรทาอายไลเนอร์หลังทาอายแชโดว์ด้วยเช่นกัน
3. แตะทาอายแชโดว์ TARTE ทาสีที่อ่อนที่สุดก่อน ปกติจะเรียกว่าเป็นสีเฉดไฮไลต์ ใช้แปรงแบนขนแข็งแตะอายแชโดว์ทาลงบนเบ้าตาด้านใน ปาดขึ้นลง เพื่อลงสีเล็กน้อยบนเส้นขอบตาบนและล่าง ปาดลงเบาๆ และปาดตรงใต้คิ้วด้วย
4. ทาสีกลาง ใช้สีที่เข้มกว่าสีอ่อนสุด 1 เฉด ซึ่งก็คือสีกลาง ใช้แปรงแบนแท็บสีนี้ให้ทั่วเปลือกตาจากแนวขนตาไปจนถึงรอยพับ ระวังอย่าทาเหนือรอยพับมากเกินไปหรือออกนอกเบ้าตา
5. ใช้สีเข้มสุดวาดเส้นเปลือกตา ใช้แปรงปลายมนแตะอายแชโดว์สีที่เข้มที่สุด เพื่อวาดเส้นเปลือกตา วาดจากด้านนอกของเบ้าตาเข้าหาด้านใน และปัดแปรงเป็นแนวครึ่งวงกลมบนและรอบๆ ตรงกลางของรอยพับ ให้อายแชโดว์สีเข้มที่สุดอยู่ตรงแนวขนตา และค่อยๆ จางลงขณะที่ปัดขึ้น
6. เบลนด์อายแชโดว์ให้สีดูกลมกลืน ทั่วๆตา
7. เสร็จแล้ว มองกระจกทุกด้าน เช็คความเรียบร้อย

รีวิวและความเห็น Eye Shadow: TARTE

ส่วนตัวนมองว่า พาเลตต์นี้คุ้มค่าอยู่ สามารถแต่งได้หลายลุค ในพาเลทเดียว ตั้งแต่ลุคเบาๆจนไปถึงลุคแซ่บๆ มีทั้งสีแมทและชิมเมอร์ในพาเลตต์เดียว แต่อาจจะไม่เหมาะกับสายปาร์ตี้หนักๆ เพราะบางคนก็มักจะบอกว่ามีสีชิมเมอร์น้อยไปนิดในตัวเนื้อสี นั้นเอง

3. Eye Shadow: TOO FACED – พาเลตต์อายแชโดว์ Teddy Bare Bare It All Eyeshadow Palette

คุณสมบัติ Eye Shadow: TOO FACED

เป็น Collection เครื่องสำอางจาก TOO FACED ระดับมาสเตอร์พีซนี้ คือผลผลิตที่จากความรักความสวบความงามของเจ้าของแบรนด์และเมคอัพอาร์ทิสต์แนวหน้าเลย Package จะมีลวดลายหมี และลายปั๊มบนตัวอายแชโดว์ด้วย ส่วนโทนสีนั้นเน้นเป็นสีชมพูที่เหมาะกับทุกเฉดสีผิวให้ใส ให้หน้าดูผ่องเด็ก แต่ก็ยังมีสีเข้มและมีสีที่เป็นไฮไลท์ไว้ใช้สำหรับแต่งตาให้แอบมีความเซ็กซี่ ที่ดูเรียบๆ ก็สามารถแต่งได้ในแบบที่เราต้องการ พร้อมยังปราศจากสารระคายเคืองต่อผิว ซึ่งสาวผิวแพ้ง่ายก็ใช้ได้

1. เนื้อของอายแชโดว์นั้นมีส่วนผสมของน้ำผึ้งมานูก้าและซินนามอน
2. ตัวเนื้อจะมีกลิ่นเหมือนขนมปัง Honey Graham Crackers ที่หอมหวานลง
3. พาเลตต์รุ่นนี้ยังปราศจากสารพาราเบน ที่อาจก่อให้เกิดการระคายเคืองกับผิวสัมผัสอีกด้วย
4. Smells like honey graham crackers

วิธีการใช้

1. ลงอายไพรเมอร์ เพื่อให้อายแชโดว์ติดทนนานทั้งวัน ถ้าไม่ใช้อายไพรเมอร์ น้ำมันธรรมชาติที่ผิวผลิตขึ้นมาจะค่อยๆ ซึมเข้าอายแชโดว์ และทำให้มันเกาะอยู่ตรงรอยพับของเปลือกตาเมื่อเวลาผ่านไปหลายชั่วโมง
2. อย่าปัดมาสคาร่าก่อนแต่งตา และถ้าไม่ได้แต่งตาสโมกกี้อายแบบพิเศษจริงๆ เราก็ควรทาอายไลเนอร์หลังทาอายแชโดว์ด้วยเช่นกัน
3. แตะทาอายแชโดว์ TOO FACED ทาสีที่อ่อนที่สุดก่อน ปกติจะเรียกว่าเป็นสีเฉดไฮไลต์ ใช้แปรงแบนขนแข็งแตะอายแชโดว์ทาลงบนเบ้าตาด้านใน ปาดขึ้นลง เพื่อลงสีเล็กน้อยบนเส้นขอบตาบนและล่าง ปาดลงเบาๆ และปาดตรงใต้คิ้วด้วย
4. ปัด Teddy Bare Bronzer ตามหน้าผาก แก้ม และกราม ให้ใช้แปรงหัวฟูอย่าง Mr. Right Brush หรือที่เราใช้ประจำก็ได้
5. ปัดราวกับว่าเรากำลังวาดรูปผีเสื้อจากหน้าผากไปจนถึงกราม
6. ทาสีกลาง ใช้สีที่เข้มกว่าสีอ่อนสุด 1 เฉด ซึ่งก็คือสีกลาง ใช้แปรงแบนแท็บสีนี้ให้ทั่วเปลือกตาจากแนวขนตาไปจนถึงรอยพับ ระวังอย่าทาเหนือรอยพับมากเกินไปหรือออกนอกเบ้าตา
7. ใช้สีเข้มสุดวาดเส้นเปลือกตา ใช้แปรงปลายมนแตะอายแชโดว์สีที่เข้มที่สุด เพื่อวาดเส้นเปลือกตา วาดจากด้านนอกของเบ้าตาเข้าหาด้านใน และปัดแปรงเป็นแนวครึ่งวงกลมบนและรอบๆ ตรงกลางของรอยพับ ให้อายแชโดว์สีเข้มที่สุดอยู่ตรงแนวขนตา และค่อยๆ จางลงขณะที่ปัดขึ้น
8. เบลนด์อายแชโดว์ให้สีดูกลมกลืน ทั่วๆดวงตา

เสร็จแล้ว มองกระจกทุกด้าน เช็คความเรียบร้อย

รีวิวและความเห็น Eye Shadow: TOO FACED

โดยส่วนตัวแอดมินก็ชอบ Collection เครื่องสำอางจาก TOO FACED นี้ คือเวลาแต่งตามันทำให้ดวงตาเป็นธรรมชาติ ดูใส ซึ่งไม่จำเป็นต้องแต่งหน้าคัดเบาตาหนักๆ ก็ทาแบบลงไปได้เลย ค่อยข้างแต่งหน้า เพราะแอดมินจะชอบแต่งหน้าใสๆ แต่งเหมือนไม่แต่ แต่ก็ต้องแต่งนะ ถือว่าผ่านเลย แถม package เป็นลายน้องหมี  โซคิ้วท์สุด++

4. Eye Shadow: DIOR – พาเลตต์อายแชโดว์ Backstage Eye Palette

คุณสมบัติ Eye Shadow: DIOR

ลักษณะเป็นพาเลตต์อเนกประสงค์มากๆ ถือเป็นพาเลตต์ในแบบที่แบรนด์ DIOR ไม่เคยทำมาก่อนเลย เพราะปกติจะเป็นพาเลตต์ที่มีสีไม่เยอะขนาดนี้ บอกเลยว่าใครเป็นแฟนคลับแบรนด์อย่าง DIOR และเป็นสาวกการแต่งตาละก็ห้ามพลาดเลย เหมาะสำหรับแต่งในทุกๆวัน เป็น everyday look เลย เนื้ออายแชโดว์ไม่ค่อยมีฝุ่น พิมเม้นสีดีมาก

• Dior Backstage Eye Palette เป็นพาเลตต์ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากรันเวย์ของดิออร์ สามารถใช้คอมพลีตลุคให้แก่ดวงตาด้วยไพรเมอร์และ 8 เฉดสีที่เป็นอายแชโดว์ ไฮไลเตอร์แก่ดวงตา และอายไลเนอร์
• A multi-use eye palette: primer, eyeshadow, highlighter and eyeliner.
• Multi-texture shades, a professional makeup finish.
• Ultra-pigmented shades.

วิธีการใช้

1. ลงอายไพรเมอร์ เพื่อให้อายแชโดว์ติดทนนานทั้งวัน ถ้าไม่ใช้อายไพรเมอร์ น้ำมันธรรมชาติที่ผิวผลิตขึ้นมาจะค่อยๆ ซึมเข้าอายแชโดว์ และทำให้มันเกาะอยู่ตรงรอยพับของเปลือกตาเมื่อเวลาผ่านไปหลายชั่วโมง
2. ลงสีเบส Eye Shadow: DIOR ให้ทั่วเปลือกตา
3. ใช้เฉดสีอ่อนลงบริเวณหัวคิ้ว
4. ใช้สีเข้มขึ้นตามแนวเส้นขนตาและขอบนอกขนตา
5. ใช้สีเข้มขึ้นอีกระดับที่ใต้ตา และเบลนด์เพื่อให้ตาดูคมชัดขึ้น

รีวิวและความเห็น Eye Shadow: DIOR

ต้องยกให้เป็นอีกหนึ่งพาเลตต์หนึ่ง สำหรับ warm tone eye shadow จาก dior เป็นพาเลตต์ที่ใช้ได้ในทุกๆ โอกาส day looks, evening looks, glam looks. สี blend ได้เป็นอย่างดี ราคาคุ้มค่าและไม่แพงเท่า dior quince โดยช่วงโปรโมชั่น มีส่วนลด แอดมันอยากให้รีบไปตำกันเลยค่ะ!! ของมันต้องมีจริงๆ

5. Eye Shadow: Etude House Play Color Eye Palette – Rose Bomb

คุณสมบัติ Eye Shadow: Etude House Play Color Eye Palette – Rose Bomb

ลักษณะ ใน 1 พาเลตต์มีสีเยอะมาก โดยหลักๆ เน้นโทนชมพู สีเหมาะกับผิว cool tone มากๆ  มีเม็ดสีแน่น ช่วยให้สาวๆ ครีเอทได้ทุกลุค ทั้งแบบหวาน เปรี้ยว เซ็กซี่  เนื้อสัมผัสเนียนนุ่ม ติดทนนาน  มอบความงามดุจดั่งเจ้าหญิง เรียกได้ว่าพาเลตต์นี้ เหมาะอย่างมากสำหรับสาวๆ ผิว cool tone ที่ชื่นชอบการแต่งหน้า หรือ โทนสีแดงกุหลาบ ให้ความรู้สึกเซ็กซี่นิดๆ มีความเปรี้ยวหน่อยๆ ลงตัวที่สุด

วิธีการใช้

1. ลงอายไพรเมอร์ เพื่อให้อายแชโดว์ติดทนนานทั้งวัน ถ้าไม่ใช้อายไพรเมอร์ น้ำมันธรรมชาติที่ผิวผลิตขึ้นมาจะค่อยๆ ซึมเข้าอายแชโดว์ และทำให้มันเกาะอยู่ตรงรอยพับของเปลือกตาเมื่อเวลาผ่านไปหลายชั่วโมง
2. ลงสีเบส Eye Shadow: Rose Bomb ให้ทั่วเปลือกตา
3. ใช้เฉดสีอ่อนลงบริเวณหัวคิ้ว
4. ใช้สีเข้มขึ้นตามแนวเส้นขนตาและขอบนอกขนตา
5. ใช้สีเข้มขึ้นอีกระดับที่ใต้ตา และเบลนด์เพื่อให้ตาดูคมชัดขึ้น
6. ทาสีกลาง ใช้สีที่เข้มกว่าสีอ่อนสุด 1 เฉด ซึ่งก็คือสีกลาง ใช้แปรงแบนแท็บสีนี้ให้ทั่วเปลือกตาจากแนวขนตาไปจนถึงรอยพับ ระวังอย่าทาเหนือรอยพับมากเกินไปหรือออกนอกเบ้าตา
7. ใช้สีเข้มสุดวาดเส้นเปลือกตา ใช้แปรงปลายมนแตะอายแชโดว์สีที่เข้มที่สุด เพื่อวาดเส้นเปลือกตา วาดจากด้านนอกของเบ้าตาเข้าหาด้านใน และปัดแปรงเป็นแนวครึ่งวงกลมบนและรอบๆ ตรงกลางของรอยพับ ให้อายแชโดว์สีเข้มที่สุดอยู่ตรงแนวขนตา และค่อยๆ จางลงขณะที่ปัดขึ้น

รีวิวและความเห็น Etude House Play Color Eye Palette – Rose Bomb

นอกจากความสวยแล้ว มีโทนสีที่ชัดเจน ยังสร้างบรรยากาศที่สนุกกับการแต่งหน้ามากขึ้นเพราะด้วยความลงตัวของสี ทำให้เราอยากลองสี ความสนุกก็เกิด ยังได้ครีเอทลุคใหม่ๆในทุกๆวันแบบไม่ซ้ำกัน แนะนำที่สุด คือ ผิว cool tone ควรมีครอบครองที่สุดนะคะ

6. Eye Shadow: Coastal Scents 252Ultimate Palette

คุณสมบัติ Coastal Scents 252Ultimate Palette

ลักษณะ Package ทำจากกล่องพลาสติกสีดำค่อนข้างแข็งแรง และภายในกล่องไม่มีกระจกแถมมาให้เหมือนชิ้นอื่นๆ ภายใน1กล่อง จะมีพาเลตต์อีก 3 ชั้น แบ่งออกตามสีข้างล่างนี้

• พาเลตต์ชั้นที่ 1 สีโทนฟ้าอ่อน ฟ้าเข้ม เขียวอ่อน เขียวเข้ม สีเหลือง สีน้ำตาล สีครีม พาเลตต์นี้จะมีทั้งเนื้อแมท และชิมเมอร์ คละกันอยู่ในนั้น
• พาเลตต์ชั้นที่ 2 จะเป็นพาเลทที่มีสีเข้มเป็นส่วนใหญ่ พาเลตต์นี้จะมีทั้งเนื้อแมท และชิมเมอร์คละกันอยู่เช่นกัน
• พาเลตต์ชั้นที่ 3 จะเป็นโทนสีแดง ให้ลุคสบายๆ ทั้ง ส้ม ชมพู ม่วงน้ำตาล ครีม ขาว พาเลตต์นี้ก็มีทั้งเนื้อแมท และชิมเมอร์เหมือนๆกัน

วิธีการใช้

1. ลงอายไพรเมอร์ เพื่อให้อายแชโดว์ติดทนนานทั้งวัน ถ้าไม่ใช้อายไพรเมอร์ น้ำมันธรรมชาติที่ผิวผลิตขึ้นมาจะค่อยๆ ซึมเข้าอายแชโดว์ และทำให้มันเกาะอยู่ตรงรอยพับของเปลือกตาเมื่อเวลาผ่านไปหลายชั่วโมง
2. ลงสีเบส หรือสีที่อ่นหน่อย Eye Shadow: Coastal Scents 252Ultimate Palette ให้ทั่วเปลือกตา
3. ใช้เฉดสีอ่อนลงบริเวณหัวคิ้ว เกลี่ยให้ทั่วบริเวณหัวตา
4. ใช้สีเข้ม หรือสีที่เราชอบ แต่เน้นเข้มและหนักกว่าสีรองพื้นหน่อย ปัดขึ้นตามแนวเส้นขนตาและขอบนอกขนตา
5. ใช้สีเข้มขึ้นอีกระดับที่ใต้ตา และเบลนด์ เพื่อให้ตาดูคมชัดขึ้น
6. เบลนด์อายแชโดว์ให้สีดูกลมกลืน ทั่วๆดวงตา เพิ่มเติมได้ในส่วนที่อยากให้เข้า (แต่ต้องเป็นจุดๆ ไป)
7. เสร็จแล้ว มองกระจกทุกด้าน เช็คความเรียบร้อย

รีวิวและความเห็น Coastal Scents 252Ultimate Palette

เป็นอายแชโดว์ที่สีเยอะมากๆ มีทั้งเนื้อแมทและชิมเมอร์ใน  พาเลตต์เดียวกันด้วยที่สำคัญ เรื่องความใหญ่และความคุ้มค่า คุ้มสุด!! ใครอยากซื้อที่เดียวแล้วจบ ไม่ต้องการซื้อบ่อยหรือมีหลายๆพาเลตต์ คือตัวนี้เลย เอาเป็นว่ามีครบทุกสีเลยที่เดียว

7. Eye Shadow: THE BALM Nude Beach Eyeshadow Palette

คุณสมบัติ THE BALM Nude Beach Eyeshadow Palette

อายแชโดว์พาเลตต์นี้ ถูกรีวิวกันมาอย่างมากว่า สามารถใช้ได้ทั้งแบบแห้งและเปียก ทำให้เปลี่ยนลุคได้ชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นลุคใสๆ ดูเป็นธรรมชาติไปจนถึงลุคเปรี้ยวซ่า บางคนพกไปเที่ยวทะเลได้อย่างมั่นใจไม่กลัวอจะไหลมากองรวมเลย ที่สำคัญแค่เห็นแพ็กเกจก็หลงรักขึ้นมาเลย เพราะพาเลตต์นี้เป็นลายวินเทจ เหมาะกับการเก็บสะสม พกไปทางไหนก็เก๋ไก๋ และไม่ใช่ภายนอกเท่านั้น เพราะเนื้อก็ติดแน่นทนนาน แถมมีทั้งเนื้อชิมเมอร์และเนื้อแมตต์ในตลับเดียว บอกเลยซื้อเถอะคุ้มมาก!

• Brilliant สีเนื้ออ่อนแมท
• Babe  สีทองอ่อนๆมีชิมเมอร์
• Buff  สีส้มอ่อนๆ ไว้ทาทั้งเบ้าตา
• Bright  สีชมพูกลางๆเนื้อแมท
• Brainiac  สีชมพูที่เข้มขึ้นมาอีกนิดนึง มีชิมเมอร์สีทอง
• Brave  สีม่วงเข้มเนื้อแมท
• Built  สีทองสว่างประกายชิมเมอร์อลังการ
• Bold  สีน้ำตาลกลางแมท สีนี้สวยผสมได้กับทุกสีเลย
• Bodacious สีส้มอิฐเนื้อแมท สวยมาก
• Breathtaking สีทองที่เข้มขึ้นมาอีกเฉด ประกายอลังการเช่นกัน
• Bootylicious สีน้ำตาลอมแดงเข้มๆ มีชิมเมอร์
• Brazen สีน้ำตาลเข้มที่สุดในพาเลตนี้ ออกโทนเหลือง เนื้อแมท

วิธีการใช้

1. ลงอายไพรเมอร์ เพื่อให้อายแชโดว์ติดทนนานทั้งวัน ถ้าไม่ใช้อายไพรเมอร์ น้ำมันธรรมชาติที่ผิวผลิตขึ้นมาจะค่อยๆ ซึมเข้าอายแชโดว์ และทำให้มันเกาะอยู่ตรงรอยพับของเปลือกตาเมื่อเวลาผ่านไปหลายชั่วโมง
2. ลงสีเบส หรือสีที่อ่นหน่อย Eye Shadow: THE BALM Nude Beach Eyeshadow Palette ให้ทั่วเปลือกตา
3. ใช้เฉดสีอ่อนลงบริเวณหัวคิ้ว เกลี่ยให้ทั่วบริเวณหัวตา
4. ใช้สีเข้ม หรือสีที่เราชอบ แต่เน้นเข้มและหนักกว่าสีรองพื้นหน่อย ปัดขึ้นตามแนวเส้นขนตาและขอบนอกขนตา
5. ใช้สีเข้มขึ้นอีกระดับที่ใต้ตา และเบลนด์ เพื่อให้ตาดูคมชัดขึ้น
6. เบลนด์อายแชโดว์ให้สีดูกลมกลืน ทั่วๆดวงตา เพิ่มเติมได้ในส่วนที่อยากให้เข้า (แต่ต้องเป็นจุดๆ ไป)
7. เสร็จแล้ว มองกระจกทุกด้าน เช็คความเรียบร้อย

รีวิวและความเห็น THE BALM Nude Beach Eyeshadow Palette

แอดมินซื้อมาเพราะชอบแพ็กเกจเลย เพราะเป็นแนววินเทจ มีไครอบครองไม่เสียหาย 55!! ขอยกสีแมตสวยมากให้เป็น the best ไปเลย เพราะเนื้อละเอียด ติดผิวง่าย ทนต่อเหงื่อ แต่ที่ตอนนี้คงหาซื้อยากหน่อย รูปแพคเกจมาในรูปแบบกระดาษแข็งตามสไตล์ของ the balm เลย สกรีนรูปชายหาดกับทะเล ตามชื่อรุ่นของเค้าเลยค่ะ